ลักษณะเด่น
จะงอยปากเรียวยาวค่อนข้างแคบ มีซี่ฟันบนจะงอยปากแบนเป็นแผ่นคล้ายใบมีดหรือสามเหลี่ยม จำนวน 16 – 26 คู่ ไม่มีซี่ฟันที่โคนจะงอยปาก มีร่องกว้างด้านใต้โคนจะงอยปาก รูจมูกยาวเป็นช่องแคบในแนวเฉียง ฐานครีบอกแคบ ครีบหลังอันแรกมีจุดเริ่มต้นอยู่ทางตอนท้ายฐานครีบท้อง มีสันคมที่ด้านข้างคอดหาง แพนครีบหางตอนล่างยื่นยาวชัดเจนและมีปลายแหลม ลำตัวสีเทา หรือน้ำตาลเทา
ขนาด
โตเต็มที่ 470 เซนติเมตร ขนาดที่พบโดยทั่วไป 246 – 282 เซนติเมตร
ถิ่นอาศัยและการแพร่กระจายในประเทศไทย
พบบริเวณพื้นแหล่งน้ำที่เป็นโคลนหรือทราย และบางครั้งขึ้นมาหากินบริเวณกลางน้ำถึงผิวน้ำในแม่น้ำจนถึงปากแม่น้ำ และชายฝั่งทะเล ส่วนใหญ่ที่ระดับน้ำไม่เกิน 40 เมตร ในน่านน้ำไทยพบทางฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ชีววิทยา
ออกลูกเป็นตัวแบบ Ovoviviparous ครั้งละประมาณ 12 ตัว โดยตัวอ่อนได้รับอาหารจากถุงไข่แดง จนกระทั่งฟักออกจากไข่ และออกมาจากท้องแม่ ปลาจะเริ่มเข้าสู่ระยะผสมพันธุ์เมื่ออายุ 9 ปี ส่วนใหญ่กินปลาขนาดเล็ก กุ้ง หอย และปูเป็นอาหาร
สถานภาพ
พ.ศ. 2550 กลุ่มปลาฉนากถูกจัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายหมายเลข 1 (Appendix I) ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES)
พ.ศ. 2556 IUCN Red List กำหนดสถานภาพให้ปลาฉนากปากแหลมเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species, EN)
พ.ศ. 2560 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดสถานภาพ ปลาฉนากปากแหลมเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species)
พ.ศ. 2561 ปลาฉนากปากแหลม ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยได้รับการประกาศเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ปลาฉนากปากแหลม อาจสูญพันธุ์ไปจากน่านน้ำไทยแล้ว มักถูกจับจากเครื่องมืออวนลาก และอวนติดตา แต่ไม่มีรายงานการถูกจับจากเรือประมงไทยมากกว่า 30 ปี แล้ว
เอกสารอ้างอิง
ทัศพล กระจ่างดารา, 2560; ปลากระดูกอ่อน (ปลาฉลาม ปลากระเบน และปลาหนู) ที่พบในน่านน้ำไทยและน่านน้ำใกล้เคียง, www.fishbase.org, สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง; รายงานสำรวจสถานภาพสัตว์ทะเลหายากที่ได้รับการประกาศเป็นสัตว์สงวนและคุ้มครอง ฉบับสมบูรณ์ (Final Report) เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564, www.wikipedia.org