ลักษณะเด่น
ส่วนหัวแผ่กว้างออกด้านข้างยาวน้อยกว่า 1/3 ของความยาวตลอดตัว จมูกแต่ละข้างยาวน้อยกว่า ½ เท่าความกว้างของปาก ขอบหน้าส่วนหัวเป็นเส้นตรง (โค้งในปลาขนาดเล็ก) มีร่องตื้นตรงกลาง ขอบฟันหยักเป็นซี่จักร ครีบหลังอันแรกสูงปลายแหลมโค้งมีจุดเริ่มต้นตรงปลายฐานครีบอก ขอบท้ายครีบหลังอันที่สองและครีบท้องโค้งเว้ามาก ลำตัวสีเทาหรือน้ำตาลเทา และด้านท้องสีขาว ปลายครีบหลังอันที่สองมีสีดำ
ขนาด
สูงสุด 610 เซนติเมตร
ถิ่นอาศัยและการแพร่กระจายในประเทศไทย
อาศัยบริเวณใกล้ผิวน้ำจนถึงพื้นท้องทะเลตามชายฝั่งทะเลและแนวปะการัง จนถึงไหล่ทวีปที่ระดับความลึกน้ำ 300 เมตรเป็นปลาที่มีการอพยพเป็นระยะทางไกลระหว่างมหาสมุทร ในน่านน้ำไทยพบทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน แต่ส่วนใหญ่พบทางทะเลอันดามัน
ชีววิทยา
ออกลูกเป็นตัวแบบ Viviparous ครั้งละ 12 – 41 ตัว ส่วนใหญ่กินปลา ปลาหมึก กุ้ง และปู
สถานภาพ
พ.ศ. 2561 IUCN Red List กำหนดสถานภาพให้เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically Endangered Species, CR)
ปัจจุบัน ปลาฉลามหัวค้อนใหญ่อยู่ระหว่างการเสนอเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อเข้าบรรจุตามกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 (มาตรา7)
ภัยคุกคาม
จากการประมง เพื่อตัดครีบเอาไปขาย โดยทำเป็นหูฉลามตากแห้ง เพื่อนำมาทำซุปหูฉลาม ตับใช้ทำน้ำมันตับปลา หนังใช้ทำเครื่องหนัง การติดเครื่องมือประมงทั้งโดยบังเอิญและตั้งใจ ส่วนใหญ่ลูกปลาฉลามหัวค้อนมักติดเครื่องมือประมงชายฝั่ง ส่วนตัวโตเต็มวัยจะถูกจับโดยเครื่องมืออวนลาก โดยเฉพาะอวนลากแผ่นตะเฆ่ ประมงอวนลอย ประมงเบ็ดราว บริเวณทะเลลึกไกลฝั่ง บางครั้งยังพบว่าถูกตกเพื่อการกีฬาจากการตกเบ็ดอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
ทัศพล กระจ่างดารา, 2560; ปลากระดูกอ่อน (ปลาฉลาม ปลากระเบน และปลาหนู) ที่พบในน่านน้ำไทยและน่านน้ำใกล้เคียง, www.fishbase.org, สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง; รายงานสำรวจสถานภาพสัตว์ทะเลหายากที่ได้รับการประกาศเป็นสัตว์สงวนและคุ้มครอง ฉบับสมบูรณ์ (Final Report) เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564, www.wikipedia.org